บริษัท Synergy Worldwide

Synergy Worldwide

Leave a Legacy

USA Office - Corporate Headquarters

Address:
5152 N. Edgewood Drive
Suite #200
Provo, Utah 84604
USA

Phone:

Front Desk: (801) 431-7600
US Customer Service: (801) 431-7660
Monday – Friday – 7:00 a.m. to 6:00 p.m. Mountain Time
Saturday – 10:00 a.m. to 2:00 p.m. Mountain time.

Fax:

U.S. Fax: (801) 494-5195

Email:

hotline@synergyworldwide.com

Live Power Calls (Every Wednesday):
1-800-832-4695 Pin #: 8908
6 pm Pacific Time; 7 pm Mountain Time; 8 pm Central Time; 9 pm Eastern Time

Sales Managers:

Joel Higginson and Jose Diaz

Symergy Worldwide ก่อตั้งขึ้นโดย แดน ฮินกินสัน นักธุรกิจหน่มที่ประสบความสำเร็จด้านการให้คำปรึกษาด้ารการบริหารองค์กรธุรกิจชั้นนำในเอเชียและอเมริกา

เขาวางอนาคตของตัวเองเพื่อที่จะเป็นผู้บริหารที่ยิ่งใหญ่ในบริษัทข้ามชาติ แต่ชีวิต แดน ฮิกกินสัน กลับต้องเปลี่ยนแปลเมื่อเขาป่วยหนักในขณะเดินทางไปยังชนบทอันห่างไกลจนแทบเอาชีวิตไม่รอด เขาได้รับการรักษาจากชาวบ้านด้วยความเมตตา โดยการใช้สมุนไพรจากธรรมชาติ แดนรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหารย์ ทำให้แดนตระหนัก และเข้าใจถึงคุณค่าของการความช่วยเหลือที่มนุษย์หยิบยื่นให้กัน โดยไม่แบ่งแยก ทำให้แดนมีโอกาสทบทวนอนาคตอีกครั้ง ทำไมความสำเร็จของเรา ต้องได้มาจากความความล้มเหลวพ่ายแพ้ของเพื่อนมนุษย์คนอื่น แดนต้องการที่จะสร้างธุรกิจที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกมีสุขภาพที่แข็งแรง ปลอดภัยจากโรคร้าย เรียนรู้ที่จะอยู่รวมกันด้วยความรัก และสร้างตำนานไว้ให้คนรุ่นหลัง

ชีวิตของ แดน ฮิกกินสัน เริ่มต้นใหม่ขึ้นอีกครั้งในปี ค.ศ. 1999 โดยยึดถือปณิธานว่า Synergy จะทำให้ชีวิตผู้คนทั่วโลกปลอดภัยจากโรคภัย และจะเป็นธุรกิจที่หยิบยื่นโอกาสให้กับผู้คนทั่วโลกไม่ว่าเขาจะเป็นใครโดยไม่แบ่งแยก

แดน ฮิกกินสัน และเพื่อนอีกสองสามคนได้ร่วมกันก่อตั้ง Synergy Worldwide ในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ.2542) จากการมีประสบการณ์ทางธุรกิจในตลาดอาเซียน พวกเขาจึงกล้าเสี่ยงอย่างไม่ลังเล และตัดสินใจที่จะเปิดบริษัทใหม่ของพวกเขาในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นสังเวียนของการตลาดแบบเครือข่ายที่ยากที่สุดในโลก เพราะแผนการจ่ายผลตอบแทนที่เป็นการปฏิวัติวงการและผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีก้าวล้ำนำหน้า ซินเนอร์จี้จึงสามารถบันทึกความสำเร็จจากการเจริญเติบโตอย่างคาดไม่ถึง

ต่อจากประเทศญี่ปุ่น Synergy เปิดตลาดของตนเองในประเทศไต้หวันในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ซึ่งสร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน ในเดือนเดียวกัน นิตยสารDunn & Bradstreet และ Entrepreneur ได้จัดอันดับให้ซินเนอร์จี้เป็นอันดับ 8ในบรรดา “100 บริษัทแรกที่มีอัตราการเจริญเติบโตร้อนแรงที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา”ในเดือนมิถุนายน ค.ศ.2000 ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความสำเร็จครั้งสำคัญเพราะ Synergy เพิ่งจะเปิดตลาดทำการค้าเพียงสาขาเดียวในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

Synergy เพื่อเจรจาที่จะซื้อกิจการ Synergy เป็นของตนเอง เนเจอร์ ซันไชน์ คือองค์กรธุรกิจที่มีอายุ 30 ปี มีการซื้อ-ขายหุ้นแก่สาธารณชนในตลาดหลักทรัพย์ และเป็นยักษ์ใหญ่ที่ปราศจากหนี้สินในวงการอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมสุขภาพ โดยมียอดธุรกิจหลายร้อยล้านดอลลาร์ในแต่ละปี Synergy จึงกลายเป็นบริษัทสาขาที่มี เนเจอร์ ซันไชน์ เป็นเจ้าของกิจการทั้งหมด ซึ่งเป็นการทวีพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่เพราะส่งผลให้ Synergy สามารถนำเสนอโอกาสทางธุรกิจที่เรียบง่ายโดยปราศจากความเสี่ยงใดๆ ทั้งมวล ควบคู่กับโอกาสทางธุรกิจอันเป็นไปได้นี้

ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2001 (พ.ศ.2544) Synergy ได้เปิดประตูสู่ธุรกิจของตนเองในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้บันทึกความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึงของตนเอง ด้วยการเปิดตลาดในประเทศนี้ ภาวะความเป็นผู้นำจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่จะสามารถช่วยผลักดันให้เครือข่ายการกระจายผลิตภัณฑ์ของ Synergy ผสานกันเป็นหนึ่งเดียว และเอื้อต่อการที่จะหนุนส่งให้บริษัทพุ่งสู่การเป็นอันดับหนึ่งของตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา Synergy กำลังมองหาผู้คนทั้งที่มีหรือไม่มีประสบการณ์ทางธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายมาก่อน ซึ่งปรารถนาจะคว้าโอกาสทางธุรกิจนี้ไว้ และเดินหน้าไปด้วยกันกับธุรกิจที่สามารถจะกลายเป็นโอกาสสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตได้อย่างแท้จริง

เพื่อสืบสานความปรารถนาที่จะขยายเครือข่ายไปทั่วโลก Synergy ได้เปิดตลาดใหม่อื่นๆ ของตนเองอย่างต่อเนื่อง ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) เราได้เปิดตลาดอย่างประสบความสำเร็จในประเทศไทย ในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) เราได้เปิดตลาดในประเทศสิงคโปร์ ออสเตรเลีย และเกาหลี ด้วยการเปิดดำเนินธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน และไทยในปัจจุบัน

Synergy จึงพร้อมที่จะขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ในตลาดอาเซียนในอนาคตอันใกล้นี้ โลกกำลังเปิดประตูต้อนรับโอกาสทางธุรกิจนี้ และเราก็กำลังเตรียมตัวเราให้พร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายนี้เช่นเดียวกัน

ผลิตภัณฑ์ : แม้ว่าความแข็งแกร่งของบริษัทนี้จะเป็นสิ่งอัศจรรย์ พลังอำนาจและความมั่นคงยืนนานของโอกาสทางธุรกิจนี้กลับขึ้นอยู่กับคุณภาพ ความมีเอกลักษณ์ และจุดแข็งของผลิตภัณฑ์แท้จริงแล้ว ผลิตภัณฑ์ของเรานั้นมีความโดดเด่นจนทำให้เราแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ ในวงการอุตสาหกรรมนี้อย่างสิ้นเชิง

Synergy Worldwide ได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อเสาะหาส่วนผสมที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ทั้งหมดสำหรับใส่รวมเข้าไปในสูตรผสมชั้นดีเลิศของเรา Synergy จะใช้เฉพาะวัตถุดิบที่คุณภาพดีที่สุดเท่านั้น การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหนือชั้นจะเริ่มจากฝ่ายวิจัยค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด คุณภาพจะถูก “หลอมรวม” เข้าไปตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มแรก แทนที่จะดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์ก่อนและจากนั้นจึงค่อย “เพิ่มเติม” คุณภาพไปในภายหลัง วัตถุดิบทั้งหมดที่เราแสวงหาจะต้องมีคุณภาพสูงตามมาตรฐานอันเข้มงวดของ Synergy เท่านั้น วิสัยทัศน์ของเราคือ การก้าวล้ำนำหน้าด้านเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเรา ไม่ว่าตลาดจะมีความต้องการเป็นอย่างไรก็ตาม นั่นคือเหตุผลว่า ทำไม Synergy จึงวิเคราะห์ตลาดของเราอย่างรอบคอบ และมีพันธะสัญญาต่อตนเองที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเหนือความคาดหมายของพวกเขาในทุกระดับ

ด้วยการมุ่งเน้นที่ความต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ล่าสุด และเทคโนโลยีก้าวล้ำนำสมัยที่สุดในการชะลอความชรา Synergy ได้จัดกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนในวัยผู้ใหญ่ทั่วทั้งอเมริกา เราได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและการชะลอความชรามาทำงานร่วมกัน โดยพวกเขาจะทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ของ เนเจอร์ ซันไชน์ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบบอย่างของพันธะสัญญาสู่ความเป็นเลิศของเรา

การหลอมรวมของปัจจัยต่างๆ : Synergy เป็นบริษัทที่อยู่ในกาละ (ช่วงเวลา) และเทศะ (สถานที่) ที่ถูกต้องเหมาะสม ด้วยประชากร “ยุคส่งเสริมให้มีการกำเนิด” (Baby Boomers)

กว่า 76 ล้านคนที่กำลังเผชิญหน้ากับความเป็นจริงคือความชราและการเกษียณอายุ บริษัทที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากส่วนที่เหลืออยู่และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ช่วยต่อต้านความร่วงโรยแห่งวัยจึงเป็นที่นิยมสูงสุด การเพิ่มขึ้นของจำนวนคนว่างงาน ความต้องการความมั่นคงในหน้าที่การงาน ภาวะตลาดที่ไม่สามารถคาดเดาได้ หนี้สินที่เพิ่มพูนขึ้น ปัจจัยทั้งหลายทั้งมวลนี้ได้ก่อให้เกิดความเป็นจริงอย่างรวดเร็วว่า มีผู้คนเพียง 2% ในจำนวนผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไปที่สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก ภาวะเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่และแนวโน้มของความต้องการความมั่นคงทางการเงินส่วนบุคคลกำลังเป็นสาเหตุให้ผู้คนในทุกระดับชั้นต่างมองหาทางเลือกที่จะนำพาตัวเองให้หลุดพ้นจากสนามแข่งขันทางเศรษฐกิจหรือสนามแข่งหนูในปัจจุบัน

ในการสร้างเครือข่าย ความรู้ความเข้าใจเพื่อที่จะยืนอยู่ได้ในแนวหน้าของแนวโน้มทางเศรษฐกิจ และการตลาดเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การวางตำแหน่งของตนเองนำหน้าแนวโน้มเหล่านี้ส่งผลให้คนธรรมดาๆ แต่ละคนสามารถเล่นอยู่ในเกมในระดับเดียวกันในฐานะเจ้าของธุรกิจและผู้บริหารระดับสูงขององค์กร 500 บริษัทที่จัดอันดับโดยนิตยสาร Fortune ซึ่งผู้คนเหล่านี้ ต่างก็มีประสบการณ์ความสำเร็จที่เหนือความคาดหมายด้วยกันทั้งสิ้น จากการวางตำแหน่งส่วนตัวของตนเองในบริษัทต่างๆ ที่พวกเขาต่างก็ยอมรับนับถือ การปรากฏตัวออกมาของแนวโน้มเหล่านี้จึงมิใช่โอกาสที่จะเห็นกันได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ทว่าแทบจะมีน้อยมากจากบริษัทเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น Synergy ได้แสดงเป็นแบบอย่างให้เห็นศักยภาพของแนวโน้มของการเจริญเติบโตนี้อย่างเด่นชัด

Synergy's Story

ชื่อ ‘Synergy’ และโลโก้ Synergy ที่เป็นรูปแขนเกาะเกี่ยวซึ่งกันและกันในลักษณะเป็นวงกลมได้รับการเลือกสรรมาเป็นพิเศษเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการร่วมแรงร่วมใจกัน คำว่า ‘Synergy’

มีการให้คำจำกัดความว่าหมายถึง “การที่องค์ประกอบตั้งแต่สององค์ประกอบหรือมากกว่านั้นมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันเพื่อที่ว่าการรวมพลังอย่างแน่นแฟ้นนี้จะสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่มากกว่าผลงานที่ต่างคนต่างทำนำมารวมกันเท่านั้น แขนที่เกาะเกี่ยวซึ่งกันและกันแสดงให้เห็นว่า ผู้คนทำงานร่วมกันอย่างไรใน Synergy เพื่อสร้างผลงานอันแข็งแกร่งร่วมกันมากกว่าที่ต่างคนต่างทำเพียงลำพังคนเดียว ผลกระทบที่เป็นพลังทวีคูณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการที่ผู้คนทำงานร่วมกันแสดงให้เห็นถึงแนวคิดของและปรัชญาของ Synergy Worldwide Synergy Worldwide มีแผนการจ่ายผลตอบแทนทางธุรกิจที่ล้ำหน้าไม่หยุดนิ่งมากที่สุดในวงการธุรกิจเครือข่าย และมีผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์จากเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่มีในตลาดในปัจจุบัน Synergy ป็นบริษัทซึ่งเป็นที่จับตามองว่า จะกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมนี้ ขณะที่เรากำลังขยายเครือข่ายไปทั่วโลก เราก็กำลังสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์ประกอบทั้งหมดอย่างแท้จริงมากกว่าการทำงานเพียงลำพังคนเดียว

ด้วยปรัชญา และปณิธานนี้จึงเป็นที่มาของแผนธุรกิจ ดูโอ ลีเนียร์ เมกะ แมชท์ (Dual Linear Mega-Match) ที่สร้างชื่อสร้าง และความเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับ Synergy ประกอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลก ทำให้ Synergy ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทเติบโตอันดับ 8 จาก 100 บริษัท ที่เติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกาในเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น